คำของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำ หวังดี เกื้อกูล เป็นประโยชน์ให้คนฟังได้มีความเข้าใจที่ถูกต้อง เพราะฉะนั้น กัลยาณมิตรสูงสุด ก็คือ พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทุกคำจริง ไม่ได้หวังให้ใครเข้าใจผิด ทรงแสดงธรรมโดยนัยต่างๆ มากมาย หลากหลาย โดยประการทั้งปวง ที่จะทำให้ค่อยๆ เข้าใจขึ้น
ผลของกรรมไม่ใช่กรรม
ที่มีชีวิตอยู่ไปวันๆ นั้นก็เพราะว่า ยังมีกรรมและผลของกรรม ที่ทำให้จิตเกิดดับสืบต่อจากขณะหนึ่ง ไปสู่อีกขณะหนึ่งจากเช้ามาถึงเย็น จากเย็นไปถึงพรุ่งนี้หมุนเวียนไปเรื่อยๆ แล้วแต่ว่ากรรมใดจะให้ผล ทั้งทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ในขณะใดจึงควรพิจารณา รู้ลักษณะของโลก ที่ปรากฏทั้งทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ตามปกติ ตามความเป็นจริง ผู้ที่เป็นชาวพุทธ จะต้องรู้ธรรมโดยละเอียด ชัดเจน ถูกต้อง ไม่ใช่ไม่รู้ ถ้ายังคงไม่รู้ ก็แยกโลกทั้ง ๖ ทางนี้ ไม่ออกและไม่สามารถที่จะรู้ชัดแต่ละโลก ตามความเป็นจริงที่จะให้ปัญญาสมบูรณ์ขึ้น เป็นลำดับขั้นนั้นย่อมเป็นไปไม่ได้เลย
การเจ็บไข้ได้ป่วย ก็เป็นผลของกรรม ไม่มีใครบังคับได้ วันนี้แข็งแรงดีพรุ่งนี้ก็เจ็บป่วยได้ แต่สำหรับผู้ที่เจริญสติ และมีปัญญา ที่ได้อบรมแล้วแม้ในขณะที่วิบาก ซึ่งเป็นผลของกรรม คืออาพาธเกิดขึ้น สติก็เกิดขึ้นแก่ท่านได้ว่า เมื่ออาพาธเกิดขึ้น อย่างนั้นแล้วเวลานั้น เป็นเวลาที่ท่าน ไม่ควรประมาท การเจ็บไข้ได้ป่วยนั้น ไม่จำกัดสถานที่ ไม่จำกัดเวลาจะเจ็บไข้ได้ป่วย ที่ไหนก็ได้ทั้งนั้น ฉะนั้นการเจริญสติปัฏฐานจึงเจริญได้ทุกแห่ง ไม่จำกัดสถานที่ ไม่ว่าจะอยู่ที่ใดก็ตามเพราะเมื่อสติเกิด ก็เป็นความไม่ประมาท
ถ้ามีคำถามว่า จะรู้ได้อย่างไร ว่าผลของกรรมที่ได้รับเป็นผลของกรรมอะไร ในชาติไหน ผลที่ได้รับ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นผลของกรรม ในอดีตที่ได้กระทำแล้วแต่อดีต ก็มีทั้งกรรมในปัจจุบันชาติ ที่ได้กระทำแล้วและกรรมในชาติก่อนๆ ที่ได้กระทำแล้วด้วย เพราะฉะนั้น เราจะมีหนทางทราบได้ไหม ว่าที่เราได้รับผลของกรรม ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย เป็นผลของกรรมชาตินี้เองหรือว่า เป็นผลของกรรมในชาติก่อน และถึงจะรู้ก็ไม่ได้ทำให้รู้แจ้งอริยสัจจธรรมได้ แล้วก็ไม่สามารถที่จะรู้ได้ นอกจากพระผู้มีพระภาค มิฉะนั้นแล้ว พระสาวกทั้งหลาย ก็คงไม่ต้องไปเฝ้ากราบทูลถามว่าเหตุการณ์แต่ละขณะ ที่ปรากฏกับแต่ละท่านนั้นเป็นผลของกรรมอะไร เป็นกรรมในอดีตหรือ เป็นกรรมในปัจจุบันชาติ แต่ข้อสำคัญ คือ ถ้าเพียงศึกษา แต่ไม่อบรมเจริญปัญญา ไม่รู้ลักษณะของสภาพธรรม ที่ปรากฏ ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย ใจ ในขณะนี้แล้วจะไปรู้ถึงอดีตชาติ หรือกรรมที่ทำสำเร็จไปแล้ว ว่ากรรมใด เป็นปัจจัยให้วิบากจิต เกิดขึ้นรู้อารมณ์ทาง ตา หู จมูก ลิ้น กาย ในขณะนี้ก็เป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้.